อาหารกระป๋องแทบจะเป็นเมนูทางเลือกสุดท้ายสำหรับการทานอาหาร เพราะเป็นอาหารทดแทน ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นอาหารที่อาจจะต้องนำไปรังสรรค์อีกหนึ่งเมนู ด้วยข้อจำกัดที่ไม่สามารถปรุงรสชาติให้ครบเครื่องได้เพื่อเพิ่มระยะเวลาในการเก็บรักษา เช่น ยำปลากระป๋อง แซนวิชทูน่า หรือสปาเกตตี้ซอสต่างๆ เป็นต้น แต่ก็มีบางคนที่ชื่นชอบรสต้นตำหรับของอาหารกระเป๋าอยู่บ้าง เช่น เมนูปลากระป๋องกับข้าวสวยร้อนๆ
อาหารกระป๋องมีกี่ประเภท?
- เนื้อกระป๋อง : ไก่ แฮม เนื้อ คอร์นบีฟ
- ผักกระป๋อง : แตงกวาดอง แครอท มะเขือเทศ
- ผลไม้กระป๋อง : ลิ้นจี่ เงาะ ลำไย สัปปะรด ส้ม
- ซุปกระป๋อง : ซุปไก่ ซุปผัก ซุปมะเขือเทศ ซุปมันฝรั่ง ซุปกระเทียม
- อาหารทะเลกระป๋อง : แซลมอน กุ้ง ปู ซาร์ดีน ทูน่าในน้ำแร่/น้ำมัน แมคเคอเรล
- ถั่วกระป๋อง : ถั่วเขียว ถั่วลันเตา ถั่วดำ ถั่วแดง
นอกจากนี้ยังมีอาหารกระป๋องประเภทที่เป็นเมนูสำเร็จรูปพร้อมทานแล้ว เช่น ข้าวผัด ไข่พะโล้ พะแนง กระเพรา และอื่นๆ แต่ก็จะมีอายุสั้น เก็บรักษายากกว่า 6 ประเภทก่อนหน้านี้
ข้อดีของอาหารกระป๋อง
- ทานง่าย สะดวกสบาย
- เก็บรักษาได้นานกว่าอาหารสด
ข้อเสียของอาหารกระป๋อง
- สูญเสียสารอาหารสำคัญในระหว่างกระบวนการบรรจุ
- มีปริมาณโซเดียวที่สูงจากการถนอมอาหาร
- เนื้อสัมผัส รสชาติ อาจแตกต่างจากอาหารสด
การเก็บรักษาอาหารกระป๋อง เก็บได้นานแค่ไหนกัน?
อายุการเก็บรักษาอาหารกระป๋องจะขึ้นอยู่กับประเภทของอาหารที่ถนอม และเป็นตัวกำหนดวันหมดอายุของอาหารกระป๋อง โดยประเทศไทยส่วนใหญ่จะเก็บรักษาได้ราว 1 – 2 ปี ด้วยความที่เป็นเมืองร้อนและผันผวนสูง ต่างจากประเทศเมืองหนาวที่จะเก็บได้นานกว่ามาก
วิธีเลือกซื้ออาหารกระป๋อง
- ดูวันหมดอายุ เลือกทานให้ห่างจากวันหมดอายุให้ได้มากที่สุด
- สภาพของกระป๋อง เลือกบรรจุภัณฑ์ที่สมบูรณ์ ไม่มีรอยบุบ นูน รั่ว หรือมีสนิทเกาะ
- ทำความเข้าใจส่วนผสมก่อน อาหารกระป๋องบางประเภทจะมีส่วนประกอบที่มากกว่าอาหารสด เช่น ปริมาณเกลือ น้ำตาล และ น้ำมัน อ่านคำแนะนำการบริโภคว่าทานได้กี่กรัมต่อวัน
- เลือกทานยี่ห้อที่มีปริมาณโซเดียมน้อยที่สุดจะเกิดผลดี
- เลือกยี่ห้อที่พอจะมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักอยู่บ้าง