เชื่อว่าหลายคนคงจะเคยได้ยินคำว่า เห็ดแชมปิญอง รู้หรือไม่ว่าจริงๆ แล้วชื่อไทยของมันคือ “เห็ดกระดุม” ที่เป็นเห็ดเศรษฐกิจที่มีความสำคัญมากที่สุดในโลกชนิดหนึ่งเลยทีเดียว แต่ก็ไม่ได้เก่าแก่มากขนาดนั้น เพราะเริ่มมีการเพาะกันในประเทศฝรั่งเศสเมื่อ 300 ปีที่แล้ว แต่ต่อมาก็ได้แพร่ขยายและได้รับความนิยมออกไปทั่วโลก
เห็ดแชมปิญอง หรือ เห็ดกระดุม ได้เข้ามาสู่ประเทศไทยปี พ.ศ. 2513 จัดหาโดยบริษัทเอกชนจ้างผู้เชี่ยวชาญมาเริ่มเพาะที่จังหวัดเชียงใหม่ แต่ช่วงแรกผลผลิตก็ดีไม่เท่าที่ควร และก็ได้มีการปรับปรุงให้ดีขึ้นมาเรื่อยๆ เหตุผลที่ต้องเริ่มที่เชียงใหม่ก็เพราะว่าสภาพภูมิอากาศของภาคเหนือมีอากาศเย็นเหมาะสม บวกกับวัสดุที่จำเป็นในการเพาะก็หาได้ง่าย และมีราคาถูก เช่น ฟางข้าว ไม้ไผ่ และค่าแรงงาน
ด้วยเหตุที่มีต้นทุนต่ำ เชื่อว่าไทยอาจจะมีการส่งเสริมการเพาะเห็ดกระดุมอย่างจริงจอง และจะกลายเป็นประเทศที่สำคัญในการผลิตเห็ดชนิดนี้ก็ได้ นอกจากนี้ทำให้อุตสาหกรรมอาหารไม่ต้องนำเข้าเข้ามา จึงทำให้ลดต้นทุนไปได้ด้วย
วิธีการเพาะเลี้ยงเห็ดแชมปิญอง
การเพาะเห็ดแชมปิญองมีหลายวิธี แต่วิธีหลักๆ ที่ทำแล้วได้ผลผลิตดีจะมี 3 วิธี ได้แก่
- การเพาะเลี้ยงสปอร์เห็ด การเพาะเลี้ยงสปอร์ของเห็ดแชมปิญอง อาจทำให้ได้ผลผลิตต่างไปจากเดิม หรืออาจจะได้เห็ดพันธุ์ใหม่ไปเลยก็ได้ จึงไม่ค่อยนิยมนัก
- การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ส่วนการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อนั้นจะทำให้ได้ผลผลิตน้อย
- การต่อเชื้อเส้นใยจากการเพาะเลี้ยงสปอร์ เป็นวิธีที่นิยมมากที่สุดและใช้กันทั่วไป แต่ก็ต้องคอยหมั่นตรวจสอบลักษณะการโตของเส้นใยอย่างสม่ำเสมอ
เห็ดแชมปิญองมีกี่สายพันธุ์
สายพันธุ์ของเห็ดแชมปิญองที่นิยมทานกันในปัจจุบันจะแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่ม คือ
- พันธุ์ดอกสีขาว เห็ดสีขาวบริสุทธิ์ โคนก้านดอกเล็กและยาว เป็นสายพันธุ์ที่ดีมีคุณภาพ รสชาติดี ได้แก่ Snow White, Pure White, Silver White, Golden White, White Queen และ White King
- พันธุ์ดอกสีครีม เห็ดสีครีม โตไว ดอกใหญ่ ได้แก่ Sattons Twenty Century, Downingtown เบอร์ 49 และ 50
- พันธุ์ดอกน้ำตาล ผลผลิตสูง อดทนต่อความร้นได้ดี มีลักษณะเนื้อแน่น มีกลิ่นหอม ก้านดอกสั้น ได้แก่ Best England เป็นที่นิยมมากในประเทศอังกฤษ