คำว่า ลดน้ำหนัก และ ลดความอ้วน ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็ได้จะได้ยินอยู่เสมอ เพราะผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะอยากมีหุ่นที่ดี ร่างกายที่แข็งแรง เพื่อความสวยงามตามอุดมคติของตนเอง หลายครั้งที่เราจะได้เห็นข่าวเกี่ยวกับยาลดน้ำหนักที่สร้างผลเสียต่อร่างกายที่อาจร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตกันได้เลย เพราะฉะนั้นเราควรที่จะมีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการลดหุ่นของเราให้ดีเสียก่อน เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง
ข้อดีของการลดน้ำหนัก
ถ้าลดน้ำหนักอย่างถูกต้อง เน้นว่า! ถ้าถูกต้องตามหลักการแพทย์ ก็จะได้ประโยชน์ดังนี้
- ได้ความพึงพอใจและความภูมิใจแก่ตนเอง
- สุขภาพดี แข็งแรงขึ้นแน่นอน
- มีไขมันในร่างกายอย่างเหมาะสม ไม่มากเกินความจำเป็น
- ระดับความดันโลหิต ไขมัน และน้ำตาลในเลือดอยู่ในเกณฑ์ที่ดี
- ลดโอกาสเกิดโรคภัยต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคอ้วน เป็นต้น
- หลักการลดน้ำหนักที่ถูกต้องตามการแพทย์
ลดไขมันในร่างกาย ไม่ใช่ลดเฉพาะกล้ามเนื้อเท่านั้น
- ห้ามอดอาหาร แต่ต้องทานอาหารให้ครบถ้วนทั้ง 5 หมู่ ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน วิตามินต่างๆ และเกลือแร่จากผักและผลไม้
- ลดปริมาณอาหาร หรือสามารถเปลี่ยนเป็นอาหารที่ให้พลังงานต่ำได้
- หลีกเลี่ยงอาหารทอด ผัด และอาหารที่มีไขมัน
- ไม่หักโหมจนเกินไป โดยอัตราลดน้ำหนักอย่างเหมาะสมในระยะสั้นภายใน 1 สัปดาห์ คือ 0.5-1 กิโลกรัม และในระยะเวลา 6 เดือน ควรลดให้ได้ 5-10% ของน้ำหนักตัวปัจจุบัน
- เมื่อลดได้แล้ว ควรรักษาน้ำหนักตัวที่ลดลงให้คงที่มากกว่า 1 ปี เพื่อการลดน้ำหนักที่ยั่งยืน
ข้อควรระวังสำหรับการลดน้ำหนัก
- ถ้ามีการลดน้ำหนักไวจนเกินไป คือ มากกว่าหรือเท่ากับ 10% ของน้ำหนักตัวเริ่มต้น จะทำให้สูญเสียมวลกล้ามเนื้อ เกิดความเครียด และท้ายที่สุดจะเกิดการโยโย่ได้
- พลังงานที่ควรได้รับต่อวันสำหรับคนอ้วนตามมาตรฐานของสมาคมโรคหัวใจแห่งประเทศอเมริกาคือ 1,200-1,300 แคลอรี่ สำหรับผู้หญิง และ 1,500-1,600 แคลอรี่ สำหรับผู้ชาย
การโยโย่ ( Yo-Yo Effect ) หลังจากลดน้ำหนัก คืออะไร?
การโยโย่ คือ ภาวะน้ำหนักเด้งขึ้นๆ ลงๆ และมักจะจบลงด้วยน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้นกว่าก่อนที่เราจะเริ่มลดน้ำหนัก และมีแนวโน้มว่าจะมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นไปเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าเราจะควบคุมอาหารหรือออกกำลังกายแล้วก็ตาม เหตุเกิดจากร่างกายเรามีภาวะที่ไขมันเยอะเกินร่วมกับมวลกล้ามเนื้อที่ลดลง ทำให้ส่งผลเสียต่อระบบการเผาผลาญ
วิธีการลดน้ำหนักอย่างถูกต้องและได้ผลดีที่สุดคือ การควบคุมการทานอาหารควบคู่กับการออกกำลังกายไปด้วย จะทำให้ผลลัพธ์ออกมาดีและมีประสิทธิภาพมากที่สุด และยังสามารถป้องกันการสูญเสียกล้ามเนื้อได้อีกด้วย